ชุมชนพัฒนาถ้า...รู้หน้าที่

ชุมชนจะพัฒนาถ้าทุกคนรู้หน้าที่ครับ(จากข้อความข่าวของชาวชุมชนนาโสกมีสมาชิกของชุมชนกล่าวถึงประเด็นความเดือดร้อนและการพัฒนาวันนี้เลยขออนุญาตหยิบมาเป็นประเด็น)การพัฒนาชุมชนนั้นต้องอาศัยความร่วมมือร่วมใจจากทุกภาคส่วนและการพัฒนาจะประสบความสพเร็จเมื่อทุกคนในชุมชนของเรารู้หน้าที่ของตนเองและปฏิบัติหน้าที่นั้นให้สมบูรณ์ในที่นี้ขอหยิบองค์กรในการมีส่วนร่วมพัฒนามา 3 องค์กรองค์กรแรกพึ่งยกฐานะมาหมาดๆครับกับเทศบาลตำบลนาโสกการยกฐานะจาก อบต.มาเป็นเทศบาลนั้นถ้าพูดง่ายๆก็เปรียบเสมือนแต่ก่อน(อบต.)เป็นรถปรับอากาศ ป.2 ครับคุณก็มีหน้าที่ขับพาผู้โดยสารไปส่งให้ถึงจุดหมายก็หมดภาระกิจแต่เมื่อยกฐานะเป็นเทศบาลตำบลก็เหมือนเปลี่ยนจากรถ ป.2 มาเป็น ป.1 คือนอกจากคุณจะต้องขับพาผู้โดยสารไปให้ถึงจุดหมายแล้วคุณต้องมีการบริการผู้โดยสารที่ดีด้วยเช่นมีน้ำดื่มให้บริการ มีห้องน้ำที่สะอาด มีอาหารว่างให้ถ้าหิว แอร์เย็นไหมถ้าเย็นไปก็มีผ้าห่มให้ เมื่อยกฐานะแล้วก็ต้องมีภาระกิจและหน้าที่เพิ่มมิใช่ยกฐานะแต่เฉพาะชื่อกับเงินงบประมาณเท่านั้นซึ่งโดยทั่วไปหน้าที่ของเทศบาลตำบลมี 2 ประเด็นก็คือการบริหารการพัฒนาและการให้บริการกับประชาชนในพื้นที่รับผิดชอบครับก็ฝากให้กับชุดผู้บริหารของเทศบาลตำบลนาโสกกลับไปปรับรูปขบวนกันใหม่ถ้าท่านทำดีประชาชนชาวเทศบาลตำบลนาโสกก็พร้อมเดินทางไปกับรถทัวร์ ป.1 ของท่านครับ องค์กรที่สอง คือสถาบันกำนันผู้ใหญ่บ้านครับปัจจุบันการบริหารราชการในพื้นที่ตำบล/หมู่บ้าน หน่วยงานที่มีบทบาทมากคือท้องถิ่นดังที่ได้กล่าวมาแล้วเนื่องจากมีงบประมานเป็นของตนเองทำให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้านบางคนเข้าใจผิดคิดว่าตนไม่มีหน้าที่ในการพัฒนาแล้ววันนี้ขอยกหน้าที่กำนัน ผู้ใหญ่บ้านในฐานะผู้บูรณาการงานท้องที่(บำบัดทุกข์ บำรุงสุข)มาฝากกันครับหน้าที่ของกำนันผู้ใหญ่บ้านคืออะไร หน้าที่ของกำนันผู้ใหญ่บ้านก็คือต้องเป็น"ผู้รู้ ผู้ดูแล ผู้แก้ไข ได้ทุกเรื่อง" หมายถึงต้องรู้ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในพื้นที่ ดูแลและแก้ไขเพื่อให้สังคมชุมชนเกิดความราบรื่น สงบสุข ซึ่งเป็นหลักการและเป้าหมายต่อหน้าที่ของกำนัน ผู้ใหญ่บ้านซึ่งยังมีอยู่ในปัจจุบัน แต่วิธีการอาจจะเปลี่ยนไปครับเปลี่ยนไปอย่างไรกล่าวคือกำนัน ผู้ใหญ่บ้านต้องเป็นผู้บูรณาการประสานการพัฒนาในท้องที่ร่วมกับองค์กรอื่นๆ เช่นท้องถิ่น และเป็นตัวเชื่อมระหว่างองค์กรภาครัฐกับพี่น้องประชาชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้านไม่ใช่ทำงานให้กับกระทรวงมหาดไทย หรือกรมการปกครองเท่านั้น แต่กำนัน ผู้ใหญ่บ้านคือผู้ที่ทำงานให้กับทุกหน่วยงานที่มีนโยบาย/แผนงาน/โครงการในการพัฒนาท้องที่ของตน กำนัน ผู้ใหญ่บ้านไม่ต้องถือเงินไว้ในมือครับแต่สิ่งที่ต้องมีคือความคิดและความตั้งใจที่จะทำให้เกิดประโยชน์สุขแก่ราษฎรหรือประชาชนในชุมชน(ตำบล)นาโสกของเราครับผู้เขียนคิดว่าเป็นงานที่ท้าทายครับเมื่องานมันมาท้าท่านกำนันผู้ใหญ่บ้านแล้วถ้าท่านสู้ท่านก็จะได้ใจประชาชนครับอย่าลืมนะครับว่าทุกวันนี้ท่านอยู่ในวาระจนถึง 60 ปีท่านจะอยู่แบบให้คนนินทาหรืออยู่แบบให้คนสรรเสริญฝากไว้ด้วยครับ องค์กรที่สาม คือภาคประชาสังคม ถ้าพูดถึงภาคประชาสังคมในชุมชนของเราผู้เขียนรู้สึกสบายใจมากครับเนื่องจากชุมชนของเรามีองค์กรนี้ค่อนข้างเข้มแข็งครับ เรามีบุคลากรในพื้นที่ที่หลากหลายซึ่งแต่ละท่านล้วนมีความสามารถจนอาจกล่าวได้ว่าที่ชุมชนของเราเป็นได้อย่างทุกวันนี้ไม่ใช่มาจากความสำเร็จของกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือนายกของท้องถิ่นคนไหน แต่เกิดจากความสำเร็จของชาวชุมชน(ตำบล)นาโสกทุกคนครับ โดยเฉพาะในปัจจุปันผู้เขียนคิดว่าองค์กรภาคประชาสังคมมีความสำคัญต่อการพัฒนาชุมชนของเรามาก การพัฒนาชุมชนของเราที่ไม่หยุดนิ่งก็ด้วยองค์กรนี้นี่เอง แต่ก็อยากฝากไว้ว่าทำอย่างไรองค์กรภาคประชาสังคมของเรานี้ถึงจะเข้มแข็งและมีความเป็นเอกภาพได้ซึ่งในความคิดของผู้เขียนเองคิดว่าเรายังขาดการเชื่อมต่อระหว่างคนรุ่นเก่าที่มีประสบการณ์กับคนรุ่นใหม่ๆที่มีแนวคิดหรือแง่มุมที่ดีแต่ยังซ่อนเร้นอยู่ก็ขอฝากไว้อีกหนึ่งอย่างสำหรับคนรุ่นใหม่ๆที่ท่านมีแนวคิดดีๆแต่ถ้าท่านไม่ได้ใช้แนวคิดนั้นมันก็ไร้ความหมายครับซึ่งทางเรา www.chumchonnasok.blogspot.com ยินดีรับฟังทุกความคิด 1 ความคิดของท่านอาจสร้างสรรค์การพัฒนาที่ยิ่งใหญ่ให้ชุมชนของเราได้นะครับ